วันที่ท่านพระสารีบุตรบรรลุอรหัตตผลนั้น ในเวลาบ่ายมีการประชุมสงฆ์ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต ณ พระเวฬุวันวิหาร อันประกอบด้วยองค์ ๔ คือ เป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ อยู่ในมาฆฤกษ์ ที่มีภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งภิกษุที่ร่วมประชุมล้วนเป็นพระอรหันตขีณาสพ ผู้ได้อภิญญา 6 และเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทาที่พระพุทธองค์ทรงประทานบรรพชาให้
โอวาทปาติโมกข์
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์กะภิกษุทั้งหลายว่า
“ขันติ คือ ความอดทน เป็นตบะอย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้าทั้งหลายตรัสว่า พระนิพพานเป็นธรรมอย่างยิ่ง
ผู้ทำร้ายผู้อื่น ผู้เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย
การไม่ทำบาปทั้งสิ้น การยังกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตของตนให้ผ่องใส
นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
การไม่กล่าวร้าย ๑
การไม่ทำร้าย ๑
ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑
ความเป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร ๑
ที่นอนที่นั่งอันสงัด ๑
การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑
หกอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"
ในสมัยของพระผู้มีพระภาคพระองค์นี้ ได้มีการประชุมสงฆ์เช่นนี้เพียงครั้งเดียวคือ ในปีแรกหลังจากที่ตรัสรู้แล้ว ๙ เดือน