อริยสาวก ย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖ เป็นไฉน
ดูกรคฤหบดีบุตร การประกอบเนือง ๆ ซึ่ง
การดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
การเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในกลางคืน
การเที่ยวดูมหรสพ
การพนัน อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
การคบคนชั่วเป็นมิตร
ความเกียจคร้าน
เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะ ๖ ประการ
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการนี้ คือ
ความเสื่อมทรัพย์อันผู้ดื่มพึงเห็นเอง ๑
ก่อการทะเลาะวิวาท ๑
เป็นบ่อเกิดแห่งโรค ๑
เป็นเหตุเสียชื่อเสียง ๑
เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย ๑
เป็นเหตุทอนกำลังปัญญา ๑
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งการเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในกลางคืน ๖ ประการเหล่านี้ คือ
ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครองไม่รักษาตัว ๑
ไม่คุ้มครองไม่รักษาบุตรภรรยา ๑
ไม่คุ้มครองไม่รักษาทรัพย์สมบัติ ๑
เป็นที่ระแวงของคนอื่น ๑
คำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้น ๆ ย่อมปรากฏในผู้นั้น ๑
อันเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมากแวดล้อม ๑
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการ ในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งการเที่ยวไปในตรอกต่าง ๆ ในเวลากลางคืนเหล่านี้แล
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการเที่ยวดูมหรสพ ๖ ประการเหล่านี้ คือ
รำที่ไหนไปที่นั่น ๑
ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น ๑
ประโคมที่ไหนไปที่นั่น ๑
เสภาที่ไหนไปที่นั่น ๑
เพลงที่ไหนไปที่นั่น ๑
เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น ๑
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการเที่ยวดูมหรสพเหล่านี้แล
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ๖ ประการเหล่านี้ คือ
ผู้ชนะย่อมก่อเวร ๑
ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป ๑
ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน ๑
ถ้อยคำของคนเล่นการพนัน
ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น ๑
ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท ๑
ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย
เพราะเห็นว่าชายนักเลงเล่นการพนัน
ไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา ๑
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งการคบคนชั่วเป็นมิตร ๖ ประการเหล่านี้ คือ
นำให้เป็นนักเลงการพนัน ๑
นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้ ๑
นำให้เป็นนักเลงเหล้า ๑
นำให้เป็นคนลวงผู้อื่นด้วยของปลอม ๑
นำให้เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า ๑
นำให้เป็นคนหัวไม้ ๑
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งการคบคนชั่วเป็นมิตรเหล่านี้แล
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งความเกียจคร้าน ๖ ประการเหล่านี้ คือ
มักให้อ้างว่าหนาวนัก แล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่าร้อนนัก แล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่าเวลาเย็นแล้ว แล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่ายังเช้าอยู่ แล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่าหิวนัก แล้วไม่ทำการงาน ๑
มักให้อ้างว่าระหายนัก แล้วไม่ทำการงาน ๑
เมื่อเขามากไปด้วยการอ้างเลศ ผลัดเพี้ยนการงานอยู่อย่างนี้ โภคะที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้วก็ถึงความสิ้นไป
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ ๖ ประการในการประกอบเนือง ๆ ซึ่งความเกียจคร้านเหล่านี้แล
พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
เพื่อนในโรงสุราก็มี เพื่อนกล่าวแต่ปากว่าเพื่อน ๆ ก็มี ส่วนผู้ใดเป็นสหายเมื่อความต้องการเกิดขึ้นแล้ว ผู้นั้นจัดว่าเป็นเพื่อนแท้
อ้างอิง : สิงคาลกสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๑ ข้อ ๑๗๘-๑๘๔ หน้า ๑๓๙-๑๔๑