มหาสติปัฏฐานสูตร - ผลแห่งการเจริญสติปัฏฐาน



ดูกรภิกษุทั้งหลายก็ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้ อย่างนี้ ตลอด ๗ ปี เขาพึงหวังผล ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑
หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑


๗ ปี ยกไว้...
ผู้ใดผู้หนึ่งพึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ ตลอด ๖ ปี ...๕ ปี ...๔ ปี ...๓ ปี ...๒ ปี ...๑ ปี

เขาพึงหวังผล ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑
หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑

๑ ปี ยกไว้...
ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ ตลอด ๗ เดือน

เขาพึงหวังผล ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑
หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑

๗ เดือนยกไว้...
ผู้ใดผู้หนึ่งเจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ นี้ อย่างนี้ ตลอด ๖... เดือน... ๕ เดือน... ๔ เดือน... ๓ เดือน… ๒ เดือน… ๑ เดือน…กึ่งเดือน

เขาพึงหวังผล ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑
หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑

กึ่งเดือนยกไว้...
ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐาน ๔ นี้ อย่างนี้ ตลอด ๗ วัน

เขาพึงหวังผล ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ

พระอรหัตผลในปัจจุบัน ๑
หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
หนทางนี้ เป็นที่ไปอันเอก
เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์
เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ
เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์โทมนัส
เพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง
เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

หนทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ ฉะนี้แล 

คำที่เรากล่าว ดังพรรณนามาฉะนี้ เราอาศัยเอกายนมรรค กล่าวแล้ว

พระผู้มีพระภาคตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้น ยินดี ชื่นชมภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฉะนี้แล

 

 

อ้างอิง : มหาสติปัฏฐานสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ ข้อที่ ๓๐๐ หน้า ๒๓๒-๒๓๓

 

ภาพประกอบ : กัมมาสทัมมะ แคว้นกุรุ
เชื่อกันว่า พระผู้มีพระภาคทรงแสดงมหาสติปัฏฐานสูตร ณ ที่นี้