ปุญญาภิสันทสูตร - ห้วงบุญห้วงกุศล



พระผู้มีพระภาคตรัสว่า                     

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย ห้วงบุญห้วงกุศล ๘ ประการนี้

นำความสุขมาให้
เป็นไปเพื่อให้ได้อารมณ์ดี มีสุขเป็นผล
เป็นไปเพื่อสวรรค์
เป็นไปเพื่อสิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ
เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข
 


ห้วงบุญห้วงกุศล ๘ ประการเป็นไฉน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้

ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๑

อีกประการหนึ่ง อริยสาวกในธรรมวินัยนี้

ถึงพระธรรมเป็นสรณะ นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๒

อีกประการหนึ่ง อริยสาวกในธรรมวินัยนี้

ถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๓

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทาน ๕ ประการนี้ เป็นมหาทาน อันบัณฑิตพึงรู้ว่าเป็นเลิศ มีมานานเป็นเชื้อสายแห่งพระอริยะ เป็นของเก่า ไม่กระจัดกระจายไม่เคยกระจัดกระจาย อันบัณฑิตไม่รังเกียจอยู่ จักไม่รังเกียจ อันสมณพราหมณ์ผู้เป็นวิญญูไม่เกลียด

ทาน ๕ ประการเป็นไฉน

อริยสาวกในธรรมวินัยนี้

เป็นผู้ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต

อริยสาวกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต

ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้

ครั้นให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้แล้ว

ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียน หาประมาณมิได้

นี้เป็นทานประการที่ ๑ ที่เป็นมหาทาน
นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๔

อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละอทินนาทาน งดเว้นจากอทินนาทาน

อริยสาวกผู้งดเว้นจากอทินนาทาน

ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้

ครั้นให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้แล้ว

ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียน หาประมาณมิได้

นี้เป็นทานประการที่ ๒ ที่เป็นมหาทาน
นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๕

อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละกาเมสุมิจฉาจาร งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร

อริยสาวกผู้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร

ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้

ครั้นให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้แล้ว

ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียน หาประมาณมิได้

นี้เป็นทานประการที่ ๓ ที่เป็นมหาทาน
นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๖

อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละมุสาวาท งดเว้นจากมุสาวาท

อริยสาวกผู้งดเว้นจากมุสาวาท

ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้

ครั้นให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้แล้ว

ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียน หาประมาณมิได้

นี้เป็นทานประการที่ ๔ ที่เป็นมหาทาน
นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๗

อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละการดื่มน้ำเมา งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

อริยสาวกผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทแล้ว

ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้

ครั้นให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้แล้ว

ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียน หาประมาณมิได้

นี้เป็นทานประการที่ ๕ ที่เป็นมหาทาน
นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ ๘


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ห้วงบุญห้วงกุศล ๘ ประการนี้แล นำสุขมาให้ ให้อารมณ์อันเลิศ มีสุขเป็นผลเป็นไปเพื่อสวรรค์ ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข

 

 

อ้างอิง : ปุญญาภิสันทสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ ข้อที่ ๑๒๙ หน้า ๑๙๑-๑๙๒