ชราสูตร – ความแก่



สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทของนางวิสาขามิคารมารดา ในบุพพาราม ใกล้พระนครสาวัตถี

ก็สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่หลีกเร้นในเวลาเย็น แล้วประทับนั่งผินพระปฤษฎางค์ผิงแดด ในที่มีแสงแดดส่องมาจากทิศประจิมอยู่

ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว บีบนวดพระกายของพระผู้มีพระภาคด้วยฝ่ามือพลางกราบทูลว่า


“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาแล้ว

เวลานี้ พระฉวีวรรณของพระผู้มีพระภาค ไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเมื่อก่อน พระสรีระก็หย่อนย่นเป็นเกลียว พระกายก็ค้อมไปข้างหน้า และความแปรปรวนของอินทรีย์ คือ พระจักษุ พระโสตะ พระฆานะ พระชิวหา พระกาย ก็ปรากฏอยู่”

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

“ดูกรอานนท์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น

ชราธรรม ย่อมมีในความเป็นหนุ่มสาว
พยาธิธรรม ย่อมมีในความไม่มีโรค
มรณธรรม ย่อมมีในชีวิต
ผิวพรรณไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเมื่อก่อน
สรีระก็หย่อนย่นเป็นเกลียว
กายก็ค้อมไปข้างหน้า
และความแปรปรวนแห่งอินทรีย์ คือ
จักษุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย ก็ปรากฏอยู่”

พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

“ถึงท่านจะติความแก่อันเลวทราม
ถึงท่านจะติความแก่อันทำให้ผิวพรรณทรามไป
รูปอันน่าพึงใจก็คงถูกความแก่ย่ำยีอยู่นั่นเอง...
แม้ผู้ใดพึงมีชีวิตอยู่ได้ร้อยปี (ผู้นั้นก็ไม่พ้นความตายไปได้)

สัตว์ทั้งปวงมีความตายเป็นเบื้องหน้า
ความตายย่อมไม่ละเว้นอะไร ๆ ย่อมย่ำยีทั้งหมดทีเดียว”

 

 

อ้างอิง : ชราสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๙ ข้อที่ ๙๖๒-๙๖๕ หน้า ๒๓๗

 

ภาพประกอบ :
จิรชนม์ ฉ่ำแสง www.fotoinfomag.com