ครั้นนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อะไร ๆ ที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา จักคงเที่ยงอยู่เสมออย่างนั้น มีอยู่หรือหนอแล
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
“ดูกรภิกษุ
รูป อะไร ๆ ที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดาจักคงเที่ยงอยู่เสมออย่างนั้น ไม่มีเลย
เวทนา อะไร ๆ ที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา จักคงเที่ยงอยู่เสมออย่างนั้น ไม่มีเลย
สัญญา อะไร ๆ ที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา จักคงเที่ยงอยู่เสมออย่างนั้น ไม่มีเลย
สังขาร อะไร ๆ ที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา จักคงเที่ยงอยู่เสมออย่างนั้น ไม่มีเลย
วิญญาณ อะไร ๆที่เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา จักคงเที่ยงอยู่เสมออย่างนั้นไม่มีเลย”
ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงหยิบก้อนโคมัยเล็กๆ แล้ว ได้ตรัสกะภิกษุนั้นว่า
“ดูกรภิกษุ การได้อัตภาพแม้มีประมาณเท่านี้แล
เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง…
ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
จักคงเที่ยงอยู่เสมออย่างนั้น ไม่มี
ถ้าแม้การได้อัตภาพมีประมาณเท่านี้
จักได้เป็นสภาพเที่ยง ยั่งยืน มั่นคง
ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดาแล้วไซร้...
การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์
เพื่อความสิ้นทุกข์โดยชอบนี้ ก็จะไม่พึงปรากฏ
ก็เพราะเหตุที่การได้อัตภาพมีประมาณเท่านี้
เที่ยง ยั่งยืน มั่นคง...
ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ...ไม่มี
ฉะนั้น การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์
เพื่อความสิ้นทุกข์โดยชอบ …จึงปรากฏ
ดูกรภิกษุ เรื่องเคยมีมาแล้ว เราได้เป็นขัตติยราชได้รับมุรธาภิเษก
เรานั้นมีนคร ๘๔,๐๐๐ นคร มีกุสาวดีราชธานีเป็นประมุข
มีปราสาท ๘๔,๐๐๐ มีธรรมประสาทเป็นประมุข
มีเรือนยอด ๘๔,๐๐๐ มีเรือนยอดมหาพยูหะเป็นประมุข
มีบัลลังก์ ๘๔,๐๐๐ ทำด้วยงา ทำด้วยแก่นจันทน์แดง ทำด้วยทอง ทำด้วยรูปิยะ ลาดด้วยผ้าโกเชาว์ มีขนยาวเกิน ๔ องคุลี ลาดด้วยผ้ากัมพลขาว ทำด้วยขนแกะ มีขนทั้งสองข้าง ลาดด้วยเครื่องลาดทำด้วยขนแกะมีดอกทึบ มีเครื่องลาดอย่างดีทำด้วยหนังชมด มีเพดานแดง มีหมอนข้างสีแดง
มีช้าง ๘๔,๐๐๐ เชือก มีเครื่องประดับทำด้วยทอง มีธงทำด้วยทอง ปกปิดด้วยข่ายทอง มีพระยาช้างอุโบสถเป็นประมุข
มีม้า ๘๔,๐๐๐ ตัว มีเครื่องประดับทำด้วยทอง ปกปิดด้วยข่ายทอง มีวลาหกอัสสวราชเป็นประมุข
มีรถ ๘๔,๐๐๐ คัน มีเครื่องประดับทำด้วยทอง มีธงทำด้วยทอง ปกปิดด้วยข่ายทอง มีเวชยันตราชรถเป็นประมุข
มีแก้ว ๘๔,๐๐๐ ดวง มีแก้วมณีเป็นประมุข มีหญิง ๘๔,๐๐๐ มีนางภัททาเทวีเป็นประมุข
มีกษัตริย์ ๘๔,๐๐๐ เป็นเหล่าอนุยนต์ มีปริณายกรัตน์เป็นประมุข มีแม่โคนม ๘๔,๐๐๐ ตัว ผูกด้วยเชือกป่าน แขวนกระดิ่งโลหะ
มีผ้า ๘๔,๐๐๐ โกฏิ มีผ้าทำด้วยเปลือกไม้มีเนื้อละเอียด มีผ้าทำด้วยไหมมีเนื้อละเอียด มีผ้าทำด้วยขนสัตว์มีเนื้อละเอียด มีผ้าทำด้วยฝ้ายมีเนื้อละเอียด
มีสำรับ ๘๔,๐๐๐ ซึ่งใส่อาหารที่ชนทั้งหลายเชิญไปโดยเฉพาะในเวลาเย็นในเวลาเช้า
ดูกรภิกษุ ก็บรรดามหานคร ๘๔,๐๐๐ เหล่านั้นแล นครที่เราครองในสมัยนั้นนครเดียวเท่านั้น คือ กุสาวดีราชธานี
บรรดาปราสาท ๘๔,๐๐๐ เหล่านั้นแล ปราสาทที่เราครองในสมัยนั้น ปราสาทเดียวเท่านั้น คือ ธรรมปราสาท
บรรดาเรือนยอด ๘๔,๐๐๐ เหล่านั้นแล เรือนยอดที่เราครองในสมัยนั้น หลังเดียวเท่านั้น คือ เรือนยอดมหาพยูหะ
บรรดาบัลลังก์ ๘๔,๐๐๐ เหล่านั้นแล บัลลังก์ที่เราใช้ในสมัยนั้น บัลลังก์เดียวเท่านั้น คือ บัลลังก์ที่ทำด้วยงาทำด้วยแก่นจันทน์แดง ทำด้วยทอง หรือทำด้วยรูปิยะ
บรรดาช้าง ๘๔,๐๐๐ เชือกเหล่านั้นแล ช้างที่เราทรงในสมัยนั้นเชือกเดียวเท่านั้น คือ พระยาช้างชื่ออุโบสถ
บรรดาม้า ๘๔,๐๐๐ ตัว เหล่านั้นแล ม้าที่เราทรงสมัยนั้น ๑ ม้าเท่านั้น คือ วลหกอัสสวราช
บรรดารถ ๘๔,๐๐๐ เหล่านั้นแล รถที่เราทรงในสมัยนั้นคันเดียวเท่านั้น คือ รถเวชยันต์
บรรดาหญิง ๘๔,๐๐๐ เหล่านั้นแล หญิงที่เรายกย่องในสมัยนั้นคนเดียวเท่านั้น คือ นางกษัตริย์หรือหญิงที่มีกำเนิดจากกษัตริย์และพราหมณ์
บรรดาผ้า ๘๔,๐๐๐ โกฏิ เหล่านั้นแล ผ้าที่เรานุ่งห่มในสมัยนั้นคู่เดียวเท่านั้น คือ ผ้าทำด้วยเปลือกไม้มีเนื้อละเอียด ผ้าทำด้วยไหมมีเนื้อละเอียด ผ้ากัมพลมีเนื้อละเอียด หรือผ้าทำด้วยฝ้ายมีเนื้อละเอียด
บรรดาสำรับ ๘๔,๐๐๐ สำรับ ซึ่งใส่ข้าวสุกที่หุงจากข้าวสาร ๑ ทะนานเป็นอย่างยิ่ง และแกงกับอันพอเหมาะแก่ข้าวนั้นที่เราบริโภค สำรับเดียวเท่านั้น
ดูกรภิกษุ สังขารทั้งปวงนั้น เป็นอดีต ดับไปแล้ว แปรปรวนไปแล้ว ด้วยประการดังนี้แล
สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง อย่างนี้แล
สังขารทั้งหลาย ไม่ยั่งยืน อย่างนี้แล
สังขารทั้งหลายทั้งปวง เว้นจากลมอัสสาสะ (ลมหายใจเข้า) อย่างนี้แล
ก็ลักษณะอันไม่เที่ยงนี้
ควรทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่าย
ควรเพื่อจะคลายกำหนัด
ควรเพื่อจะพ้นไปเพียงไรในสังขารทั้งปวง”
อ้างอิง : โคมยสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ ข้อที่ ๒๔๘-๒๕๑ หน้า ๑๓๖-๑๓๘
ภาพประกอบ
www.pixabay.com