สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี
ก็สมัยนั้นแล ภิกษุเป็นอันมากกลับจากบิณฑบาตภายหลังภัต นั่งประชุมกันที่หอฉัน สนทนาดิรัจฉานกถาเป็นอันมาก คือ
ดิรัจฉานกถา
สนทนาเรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอำมาตย์ เรื่องกองทัพ เรื่องภัย เรื่องกรรม เรื่องข้าว เรื่องน้ำ เรื่องผ้า เรื่องที่นอน เรื่องดอกไม้ เรื่องของหอม เรื่องญาติ เรื่องยาน เรื่องบ้าน เรื่องนิคม เรื่องนครเรื่องชนบท เรื่องสตรี เรื่องคนกล้าหาญ เรื่องตรอก เรื่องท่าน้ำเรื่องคนล่วงลับไปแล้ว เรื่องเบ็ดเตล็ด เรื่องโลก เรื่องทะเล เรื่องความเจริญและความเสื่อม ด้วยประการนั้น
ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จออกจากที่เร้นในเวลาเย็น เสด็จเข้าไปยังหอฉัน ประทับนั่งบนอาสนะอันเขาตบแต่งไว้ ครั้นแล้ว จึงตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ กถาอะไรที่เธอทั้งหลายสนทนาค้างไว้”
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับจากบิณฑบาตภายหลังภัต นั่งประชุมกันที่หอฉัน สนทนาซึ่งดิรัจฉานกถาเป็นอันมาก พระพุทธเจ้าข้า”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย การที่เธอทั้งหลายสนทนากันถึงดิรัจฉานกถาเป็นอันมาก ไม่สมควรแก่เธอทั้งหลาย ผู้เป็นกุลบุตรออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธาเลย
เรื่องที่ควรพูด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ ๑๐ ประการนี้ คือ
อัปปิจฉกถา ๑ (เรื่องความมักน้อย)
สันตุฏฐิกถา ๑ (เรื่องความสันโดษ)
ปวิเวกกถา ๑ (เรื่องความสงัด)
อสังสัคคกถา ๑ (เรื่องความไม่คลุกคลี)
วิริยารัมภกถา ๑ (เรื่องปรารภความเพียร)
สีลกถา ๑
สมาธิกถา ๑
ปัญญากถา ๑
วิมุตติกถา ๑
วิมุตติญาณทัสสนกถา ๑
หากว่าเธอทั้งหลายยึดถือเอากถาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้ แล้วกล่าวเป็นกถาไซร้
เธอทั้งหลายพึงครอบงำเดชแม้ของพระจันทร์และพระอาทิตย์ ผู้มีฤทธิ์มีอานุภาพมากอย่างนี้ด้วยเดชได้ จะป่วยกล่าวไปไยถึงปริพาชกอัญญเดียรถีย์ทั้งหลายเล่า"
อ้างอิง : วัตถุกถาสูตรที่ ๑ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๔ ข้อที่ ๖๙ หน้า ๑๑๔-๑๑๕