1-48 อนาถบิณฑิกคหบดีสร้างพระเชตวัน



ด้านหลังสถูปบ้านท่านอนาถบิณฑิกคหบดี

อนาถบิณฑิกคหบดีเป็นคนมีมิตรสหายมาก มีวาจาควรเชื่อถือ ครั้นเสร็จกิจในเมืองราชคฤห์แล้ว กลับไปสู่พระนครสาวัตถี ได้ชักชวนชาวบ้านระหว่างทางว่า

“ท่านทั้งหลาย จงช่วยกันสร้างอาราม จงช่วยกันสร้างวิหาร เริ่มบำเพ็ญทาน เพราะเวลานี้พระพุทธเจ้าอุบัติในโลกแล้ว อนึ่ง พระองค์อันข้าพเจ้าได้นิมนต์แล้ว จักเสด็จมาโดยทางนี้”

ชาวบ้านเหล่านั้นที่อนาถบิณฑิกคหบดีชักชวนไว้ ต่างพากันสร้างอาราม สร้างวิหาร เริ่มบำเพ็ญทาน ครั้นอนาถบิณฑิกคหบดีไปถึงพระนครสาวัตถีแล้ว เที่ยวตรวจดูพระนครสาวัตถีโดยรอบว่า

"พระผู้มีพระภาคควรจะประทับอยู่ที่ไหนดีหนอ ซึ่งเป็นสถานที่ไม่ไกลนัก ไม่ใกล้นักจากหมู่บ้าน มีคมนาคมสะดวก ชาวบ้านที่มีความประสงค์ ไปมาได้ง่าย กลางวันมีคนน้อย กลางคืนเงียบ มีเสียงอึกทึกน้อย ปราศจากกลิ่นไอของคน เป็นสถานควรแก่การประกอบกรรมในที่ลับของมนุษย์ชน สมควรเป็นที่หลีกเร้น"



อนาถบิณฑิกคหบดีได้เห็นพระอุทยานของเจ้าเชตราชกุมาร ซึ่งเป็นสถานไม่ไกลนัก ไม่ใกล้นักจากหมู่บ้าน มีการคมนาคมสะดวก ชาวบ้านบรรดาที่มีความประสงค์ไปมาได้ง่าย กลางวันมีคนน้อย กลางคืนเงียบ มีเสียงอึกทึกน้อย ปราศจากกลิ่นไอคน เป็นสถานควรแก่การประกอบกรรมในที่ลับของมนุษย์ชน สมควรเป็นที่หลีกเร้น จึงเข้าเฝ้าเจ้าเชตราชกุมาร กราบทูลว่า

“ขอใต้ฝ่าพระบาท จงทรงประทานพระอุทยานแก่เกล้ากระหม่อม เพื่อจัดสร้างพระอาราม พระเจ้าข้า”

เจ้าเชตราชกุมารรับสั่งว่า “ท่านคหบดี อารามเราให้ไม่ได้ แต่ต้องซื้อด้วยลาดทรัพย์เป็นโกฏิ”"

“อารามพระองค์ทรงตกลงขายหรือ พระเจ้าข้า”

“อารามฉันยังไม่ตกลงขาย ท่านคหบดี” 

เจ้าชายได้ถามมหาอำมาตย์ผู้พิพากษาความว่า “เป็นอันตกลงขาย หรือไม่ตกลงขาย”

มหาอำมาตย์ผู้พิพากษาตอบว่า “เมื่อพระองค์ตีราคาแล้ว อารามเป็นอันตกลงขาย”

อนาถบิณฑิกคหบดีได้สั่งให้คนเอาเกวียนบรรทุกเงินออกมาเรียงลาด ริมจรดกัน ณ อารามเชตวัน เงินที่ขนออกมาคราวเดียว ยังไม่พอที่จะปูลาดให้เต็มอาราม เหลือพื้นที่ว่างอยู่หน่อยหนึ่งใกล้ซุ้มประตู อนาถบิณฑิกคหบดีจึงสั่งคนทั้งหลายว่า

“พนาย พวกเธอจงไปขนเงินมาเรียงในพื้นที่ว่างนี้”



พระคันธกุฎีในเชตวันมหาวิหาร

ขณะนั้น เจ้าเชตราชกุมารทรงพระรำพึงว่า ‘ที่ว่างอันน้อยนี้ก็จักไม่ให้มีเหลือ ท่านคหบดีนี้บริจาคเงินมากมายถึงเพียงนั้น’ แล้วจึงตรัสว่า

“พอแล้ว ท่านคหบดี ท่านอย่าได้ปูลาดพื้นที่ว่างนี้เลย ท่านจงให้โอกาสนี้แก่ฉัน ที่ว่างนี้ฉันจักยกให้”

ดังนั้น อนาถบิณฑิกคหบดีใคร่ครวญว่า "เจ้าเชตราชกุมารทรงเรืองพระนาม มีคนรู้จักมาก ความเลื่อมใสในพระธรรมวินัยนี้ของคนที่มีคนรู้จักมากเห็นปานนี้ ยิ่งใหญ่นักแล"

จึงได้ถวายที่ว่างนั้นแก่เจ้าเชตราชกุมาร เจ้าเชตราชกุมารรับสั่งให้สร้างซุ้มประตูลงในที่ว่างนั้น ส่วนอนาถบิณฑิกคหบดีได้ให้สร้างวิหารหลายหลังไว้ในพระเชตวัน สร้างบริเวณ สร้างซุ้มประตู สร้างศาลาหอฉัน สร้างโรงไฟ สร้างกัปปิยกุฎี สร้างวัจจกุฎี สร้างที่จงกรม สร้างโรงจงกรม สร้างบ่อน้ำ สร้างศาลาบ่อน้ำ สร้างเรือนไฟ สร้างศาลาเรือนไฟ สร้างสระโบกขรณี สร้างมณฑป

 

 

อ้างอิง : พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๗ ข้อที่ ๒๕๖ -๒๕๗ หน้า ๗๐-๗๑