39-04 โทษของผู้ที่ยังใจประทุษร้ายในท่านผู้ปฏิบัติดี



ภายในบริเวณเชตวันมหาวิหาร

พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปว่า

"ก็วาจาหยาบเช่นกับขวาน
เกิดในปากของบุรุษแล้ว
เป็นเหตุตัดรอนตนเองของบุรุษ
ผู้เป็นพาล ผู้กล่าวคำทุพภาษิต

ผู้ใดสรรเสริญคนที่ควรนินทา
หรือนินทาคนที่ควรสรรเสริญ
ผู้นั้นย่อมก่อโทษเพราะปาก
ย่อมไม่ได้ความสุขเพราะโทษนั้น

การแพ้ด้วยทรัพย์เพราะเล่นการพนัน
เป็นโทษเพียง เล็กน้อย
โทษของผู้ที่ยังใจให้ประทุษร้าย
ในท่านผู้ปฏิบัติดีนี้แล เป็นโทษมากกว่า

บุคคลตั้งวาจาและใจอันลามกไว้แล้ว
เป็นผู้ติเตียนพระอริยะเจ้า
ย่อมเข้าถึงนรกตลอดกาลประมาณ
ด้วยการนับปี ๑๐๐,๐๐๐ นิรัพพุทะและ ๔๐ อัพพุทะ

ผู้กล่าวคำเท็จย่อมเข้าถึงนรก
อนึ่ง ผู้ทำกรรมอันลามกแล้ว กล่าวว่าไม่ได้ทำ
ก็ย่อมเข้าถึงนรกอย่างเดียวกัน
คนทั้งสองนั้นเป็นมนุษย์มีกรรมอันเลวทราม
ละไปแล้ว ย่อมเป็นผู้เสมอกันในโลกเบื้องหน้า

ผู้ใดประทุษร้ายต่อคนผู้ไม่ประทุษร้าย
ผู้เป็นบุรุษหมดจด ไม่มีกิเลสเครื่องยั่วยวน
บาปย่อมกลับมาถึงผู้เป็นพาลนั้นเอง
เหมือนธุลีละเอียดที่บุคคลซัดไปทวนลม ฉะนั้น

ผู้ที่ประกอบเนือง ๆ ในคุณ คือ ความโลภ
ไม่มีศรัทธา กระด้าง ไม่รู้ความประสงค์ของผู้ขอ
มีความตระหนี่ ประกอบเนือง ๆ ในคำส่อเสียด
ย่อมบริภาษผู้อื่นด้วยวาจา

แน่ะ คนผู้มีปากเป็นหล่ม กล่าวคำอันไม่จริง
ผู้ไม่ประเสริฐ ผู้กำจัดความเจริญ ผู้ลามก
ผู้กระทำความชั่ว ผู้เป็นบุรุษในที่สุดมีโทษ
เป็นอวชาต
ท่านอย่าได้พูดมากในที่นี้ อย่าเป็นสัตว์นรก
ท่านย่อมเกลี่ยธุลี คือ กิเลสลงในตน
เพื่อกรรมมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล

ท่านผู้ทำกรรมหยาบ ยังติเตียนสัตบุรุษ
ท่านประพฤติทุจริตเป็นอันมากแล้ว
ย่อมไปสู่มหานรกสิ้นกาลนาน
กรรมของใคร ๆ ย่อมฉิบหายไปไม่ ได้เลย
บุคคลมาได้รับกรรมนั้นแล
เป็นเจ้าของแห่งกรรมนั้น
(เพราะ) คนเขลาผู้ทำกรรมหยาบ
ย่อมเห็นความทุกข์ในตน ในปรโลก

ผู้ทำกรรมหยาบย่อมเข้าถึงสถานที่อันนายนิรยบาลนำขอเหล็กมา ย่อมเข้าถึงหลาวเหล็กอันคมกริบ และย่อมเข้าถึงก้อนเหล็กแดงโชติช่วง เป็นอาหารอันสมควรแก่กรรมที่ตนทำไว้อย่างนั้น

สัตว์นรกทั้งหลายจะพูดก็พูดไม่ได้
จะ วิ่งหนีก็ไม่ได้ ไม่ได้ที่ต้านทานเลย
นายนิรยบาลลากขึ้นภูเขาถ่านเพลิง
สัตว์นรกนั้นนอนอยู่บนถ่านเพลิงอันลาดไว้
ย่อมเข้าไปสู่กองไฟอันลุกโพลง
พวกนายนิรยบาลเอาข่ายเหล็กพัน
ตีด้วยฆ้อนเหล็กในที่นั้น

สัตว์นรกทั้งหลายย่อมไปสู่โรรุวนรกที่มืดทึบ
ความมืดทึบนั้นแผ่ไปเหมือนกลุ่มหมอก ฉะนั้น
ก็ทีนั้น สัตว์นรกทั้งหลายย่อมเข้าไปสู่หม้อเหล็ก
อันไฟลุกโพลง ลอยฟ่องอยู่
ไหม้อยู่ในหม้อเหล็กนั้น อันไฟลุกโพลงสิ้นกาลนาน

ก็ผู้ทำกรรมหยาบจะไปสู่ทิศใด ๆ
ก็หมกไหม้อยู่ในหม้อเหล็กอันเปื้อนด้วยหนองและเลือดในทิศ นั้นๆ
ลำบากอยู่ในหม้อเหล็กนั้น

ผู้ทำกรรมหยาบหมกไหม้อยู่ในน้ำอันเป็นที่อยู่ของหมู่หนอน ในหม้อเหล็กนั้น ๆ แม้ฝั่งเพื่อจะไปก็ไม่มีเลย เพราะกระทะครอบอยู่โดยรอบมิดชิดในทิศทั้งปวง และยังมีป่าไม้มีใบเป็นดาบคม

สัตว์นรกทั้งหลายย่อมเข้าไปสู่ป่าไม้ ถูกดาบใบไม้ตัดหัวขาด พวกนายนิรยบาล เอาเบ็ดเกี่ยวลิ้นออกแล้ว ย่อมเบียดเบียนด้วยการดึงออกมา ๆ

ก็ลำดับนั้น สัตว์นรกทั้งหลายย่อมเข้าถึงแม่น้ำด่างอันเป็นหล่ม ย่อมเข้าถึงคมมีดโกนอันคมกริบ สัตว์นรกทั้งหลายผู้กระทำบาป เป็นผู้เขลา ย่อมตกลงไปบนคมมีดโกนนั้นเพราะได้กระทำบาปไว้

ก็สุนัขดำ สุนัขด่าง และสุนัขจิ้งจอก ย่อมรุมกัดกินสัตว์นรกทั้งหลาย ผู้ร้องไห้อยู่ที่นั้น

ฝูงกาดำ แร้ง นกตะกรุม และกาไม่ดำ ย่อมรุมกันจิกกินคนผู้ทำกรรมหยาบ ย่อมเห็นความเป็นไปในนรกนี้ยากหนอ

เพราะฉะนั้น นรชนพึงเป็นผู้ทำกิจที่ควรทำในชีวิตที่ยังเหลืออยู่นี้ และไม่พึงประมาท

เกวียนบรรทุกงา ผู้รู้ทั้งหลายนับแล้ว นำเข้าไปเปรียบในปทุมนรก เป็น ๕๑,๒๐๐ โกฏิ

นรกเป็นทุกข์เรากล่าวแล้วในพระสูตรนี้เพียงใด สัตว์ทั้งหลายผู้ทำกรรมหยาบ พึงอยู่ในนรกแม้นั้น ตลอดกาลนานเพียงนั้น

เพราะฉะนั้น บุคคลพึงกำหนดรักษาวาจา ใจ ให้เป็นปรกติในผู้สะอาด มีศีลเป็นที่รัก และมีคุณดีงามทั้งหลาย"

 

 

อ้างอิง : โกกาลิกสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ ข้อที่ ๓๘๗ หน้า ๓๔๔-๓๔๖