สระน้ำในเขตโบราณสถาน เมืองเวสาลี
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่สีหเสนาบดี คือ ทรงประกาศทานกถา สีลกถา สัคคกถา โทษ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย และอานิสงส์ในความออกจากกาม
เมื่อพระองค์ทรงทราบว่าสีหเสนาบดีมีจิตคล่อง มีจิตอ่อน มีจิตปลอดจากนิวรณ์ มีจิตเบิกบาน มีจิตผ่องใสแล้ว จึงได้ทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี ปราศจากมลทินได้เกิดแก่สีหเสนาบดี ณ สถานที่นั่งนั้นแลว่า
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา ดุจผ้าที่สะอาด ปราศจากมลทินควรรับน้ำย้อมเป็นอย่างดี ฉะนั้น
ครั้นสีหเสนาบดีเห็นธรรมแล้ว บรรลุธรรมแล้ว รู้ธรรมแจ่มแจ้งแล้ว หยั่งลงสู่ธรรมแล้ว ข้ามความสงสัยได้แล้ว ปราศจากถ้อยคำแสดงความสงสัย ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา ได้กราบทูลคำนี้แด่พระผู้มีพระภาคว่า
“ขอพระผู้มีพระภาคพร้อมกับภิกษุสงฆ์จงทรงพระกรุณาโปรดรับภัตตาหารของข้าพระพุทธเจ้า เพื่อเจริญบุญกุศลและปีติปราโมทย์ในวันพรุ่งนี้ด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคทรงรับอาราธนาโดยดุษณีภาพ
ครั้นสีหเสนาบดีทราบอาการที่ทรงรับอาราธนาของพระผู้มีพระภาคแล้ว ได้ลุกจากที่นั่ง ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณกลับไป
ต่อมาสีหเสนาบดีใช้มหาดเล็กผู้หนึ่งว่า
“พนาย เจ้าจงไปหาซื้อเนื้อสดที่เขาขาย แล้วสั่งให้ตกแต่งขาทนียโภชนียาหารอันประณีต
เมื่อผ่านราตรีนั้นแล้ว ให้มหาดเล็กไปกราบทูลภัตกาลแด่พระผู้มีพระภาคว่า
"ถึงเวลาแล้วพระพุทธเจ้าข้า ภัตตาหารเสร็จแล้ว”
ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสก ถือบาตรจีวร เสด็จพระพุทธดำเนินไปทางนิเวศน์ของสีหเสนาบดี ครั้นถึงแล้วประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์ที่เขาจัดถวาย พร้อมกับภิกษุสงฆ์
ก็โดยสมัยนั้นแล พวกนิครนถ์เป็นอันมากพากันประคองแขน คร่ำครวญไปตามถนนหนทางสี่แยก สามแยกทั่วทุกสายในพระนครเวสาลีว่า
“วันนี้ สีหเสนาบดีล้มสัตว์ของเลี้ยงตัวอ้วน ๆ ทำอาหารถวายพระสมณะโคดม พระสมณะโคดมทรงทราบอยู่ ยังเสวยเนื้อนั้น ซึ่งเขาทำเฉพาะเจาะจงตน”
ขณะนั้น มหาดเล็กผู้หนึ่งเข้าไปเฝ้าสีหเสนาบดีทูลกระซิบว่า
“ขอเดชะ ฝ่าพระบาทพึงทราบว่านิครนถ์มากมายเหล่านั้นพากันประคองแขนคร่ำครวญไปตามถนนหนทางสี่แยกสามแยกทั่วทุกสายในพระนครเวสาลีว่า วันนี้สีหเสนาบดีล้มสัตว์ของเลี้ยงตัวอ้วน ๆ ทำอาหารถวายพระสมณโคดม พระสมณโคดมทรงทราบอยู่ ยังเสวยเนื้อนั้น ซึ่งเขาทำเฉพาะเจาะจงตน”
“ช่างเถิดเจ้า ท่านเหล่านั้นมุ่งติเตียนพระพุทธเจ้า มุ่งติเตียนพระธรรม มุ่งติเตียนพระสงฆ์มานานแล้ว แต่ก็กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นด้วยถ้อยคำอันไม่จริง ยังไม่หนำใจ ส่วนพวกเราไม่ตั้งใจปลงสัตว์จากชีวิต แม้เพราะเหตุแห่งชีวิตเลย”
ครั้งนั้น สีหเสนาบดีอังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีตด้วยมือของตน จนพระผู้มีพระภาคเสวยเสร็จ ทรงนำพระหัตถ์ออกจากบาตร ห้ามภัตรแล้ว นั่งเฝ้าอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้สีหเสนาบดีผู้นั่งเฝ้าอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริง ด้วยธรรมีกถาแล้ว ทรงลุกจากที่ประทับเสด็จกลับไป
อ้างอิง : สีหเสนาบดี พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ ข้อที่ ๘๐ หน้า ๘๓-๘๕
รูปภาพ : http://silentpagesindia.blogspot.com/2014/03/the-remains-of-ancient-vaishali.html