1-31 ชาวมคธติเตียนสมณะเชื้อสายศากยบุตร



นครราชคฤห์

พวกกุลบุตรชาวมคธที่มีชื่อเสียงพากันประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาค

ประชาชนพากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า

พระสมณะโคดมปฏิบัติเพื่อให้ชายไม่มีบุตร
พระสมณโคดมปฏิบัติเพื่อให้หญิงเป็นหม้าย
พระสมณโคดมปฏิบัติเพื่อตัดสกุล

บัดนี้ พระสมณโคดมให้ชฎิลพันรูปบวชแล้ว และให้ปริพาชกศิษย์ของท่านสญชัย ๒๕๐ คนนี้บวชแล้ว และกุลบุตรชาวมคธที่มีชื่อเสียงพากันประพฤติพรหมจรรย์ในพระสมณโคดม"

ประชาชนได้เห็นภิกษุทั้งหลายแล้วได้โจทย์ด้วยคาถานี้ ว่าดังนี้

“พระมหาสมณะเสด็จมาสู่พระนครคอกเขาของชาวมคธแล้ว ได้ทรงนำปริพาชกพวกสญชัยทั้งปวงไปแล้ว บัดนี้ จักทรงนำใครไปอีกเล่า”    

ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนพวกนั้นเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสียงนั้นจักอยู่ไม่ได้นาน จักอยู่ได้เพียง ๗ วันเท่านั้น พ้น ๗ วันก็จักหายไป

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าชนเหล่าใดกล่าวหาต่อพวกเธอ พวกเธอจงกล่าวโต้ตอบต่อชนเหล่านั้น ด้วยคาถาว่าดังนี้

‘พระตถาคตทั้งหลายผู้แกล้วกล้ามาก ย่อมทรงนำชนทั้งหลายไปด้วยพระสัทธรรม เมื่อชนทั้งหลายอันพระองค์ทรงนำไปอยู่โดยธรรม ผู้เข้าใจอย่างนี้จะริษยาทำไม’

เมื่อประชาชนทั้งหลายได้เห็นภิกษุทั้งหลายแล้ว กล่าวหาด้วยคาถา

ภิกษุทั้งหลายได้กล่าวโต้ตอบต่อประชาชนพวกนั้น ด้วยคาถาว่า

“พระตถาคตทั้งหลายผู้แกล้วกล้ามาก ย่อมทรงนำชนทั้งหลายไปด้วยพระสัทธรรม เมื่อชนทั้งหลายอันพระองค์ทรงนำไปอยู่โดยธรรม ผู้เข้าใจอย่างนี้จะริษยาทำไม”

ประชาชนกล่าวอย่างนี้ว่า

“ได้ยินว่า พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรทรงนำชนทั้งหลายไปโดยธรรม ไม่ทรงนำไปโดยอธรรม”

เสียงนั้นได้มีเพียง ๗ วันเท่านั้น พ้น ๗ วันก็หายไป

 

 

อ้างอิง : พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ ข้อที่ ๗๓-๗๖ หน้า ๖๐-๖๒