Buddha Memorial Park ในเมืองปัตนะปัจจุบัน
ก็สมัยนั้น สุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ สร้างเมืองในปาฏลิคามเพื่อป้องกันพวกเจ้าวัชชี ก็สมัยนั้น เทวดาเป็นอันมากนับเป็นพัน ๆ หวงแหนที่ในปาฏลิคาม
เทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่หวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและราชมหาอำมาตย์ผู้มีศักดิ์ใหญ่ ก็น้อมไปเพื่อจะสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น
เทวดาชั้นกลางหวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและพระราชมหาอำมาตย์ชั้นกลาง ก็น้อมไปเพื่อสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น
เทวดาชั้นต่ำหวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและราชมหาอำมาตย์ชั้นต่ำ ก็น้อมไปเพื่อสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น
พระผู้มีพระภาคได้ทรงเห็นเทวดาเหล่านั้นนับเป็นพัน ๆ หวงแหนที่ในปาฏลิคามด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จลุกขึ้นในเวลาปัจจุสสมัยแห่งราตรี ตรัสเรียกพระอานนท์มารับสั่งว่า
“ดูกรอานนท์ ใครหนอจะสร้างเมืองในปาฏลิคาม”
พระอานนท์ทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ จะสร้างเมืองปาฏลิคามเพื่อป้องกันพวกเจ้าวัชชี”
“ดูกรอานนท์ สุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ จะสร้างเมืองในปาฏลิคามเพื่อป้องกันพวกเจ้าวัชชี ก็เปรียบเหมือนท้าวสักกะทรงปรึกษากับพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์
ในที่นี้ เราได้เห็นเทวดาเป็นอันมากนับเป็นพัน ๆ หวงแหนที่ในปาฏลิคามด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์
ดูกรอานนท์ ที่นี้จักเป็นที่อยู่อันประเสริฐ เป็นทางค้าขาย เป็นนครอันเลิศ ชื่อว่า ปาฏลีบุตร เป็นที่แก้ห่อภัณฑะ นครปาฏลีบุตรจักมีอันตราย ๓ ประการ คือ ไฟ น้ำ หรือการยุให้แตกพวก”
พราหมณ์สุนีธะและวัสสการะถวายภัตตาหาร
ครั้งนั้น สุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้วได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอท่านพระโคดมพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จงทรงรับภัตของข้าพระองค์เพื่อเสวยในวันนี้”
พระผู้มีพระภาคทรงรับด้วยดุษณีภาพ ลำดับนั้น สุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ ทราบว่าพระผู้มีพระภาคทรงรับแล้ว จึงเข้าไปยังที่พักของตนๆ ครั้นแล้วจัดแต่งของเคี้ยว ของฉันอันประณีตในที่พักของตน ๆ แล้วให้ทูลเวลาแด่พระผู้มีพระภาคว่า
“ข้าแต่ท่านพระโคดมผู้เจริญ ได้เวลาแล้ว ภัตตาหารสำเร็จแล้ว”
ครั้งนั้น เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งห่มแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จเข้าไปยังที่พักของสุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ ประทับนั่งบนอาสนะที่เขาจัดถวาย สุนีธะและวัสสการะอำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ อังคาสภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขให้อิ่มหนำ เพียงพอด้วยของเคี้ยวของฉันอันประณีต ด้วยมือของตน ๆ
ครั้นพระผู้มีพระภาคเสวยเสร็จวางพระหัตถ์จากบาตรแล้ว สุนีธะและวัสสการะถืออาสนะต่ำ นั่งเฝ้าอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง เมื่อสุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐ นั่งเฝ้าอยู่อย่างนี้แล้ว พระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาด้วยคาถาเหล่านี้ ความว่า
“บัณฑิตยชาติสำเร็จการอยู่ในประเทศใด ย่อมเชื้อเชิญท่านผู้มีศีล ผู้สำรวมแล้ว ประพฤติพรหมจรรย์ ให้บริโภคในประเทศนั้น ได้อุทิศทักษิณาทานให้แก่เทวดาที่มีอยู่ ณ ที่นั้น เทวดาเหล่านั้นได้รับบูชาแล้ว ย่อมบูชาตอบเขา ได้รับความนับถือ แล้วย่อมนับถือตอบเขา แต่นั้น ย่อมอนุเคราะห์เขา เหมือนมารดาอนุเคราะห์บุตรซึ่งเกิดแต่อก ฉะนั้น บุรุษผู้อันเทวดา อนุเคราะห์แล้ว ย่อมเห็นความเจริญทุกเมื่อ”
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนากะสุนีธะและวัสสการะ อำมาตย์ผู้ใหญ่ในมคธรัฐด้วยพระคาถาเหล่านี้แล้ว เสด็จลุกจากอาสนะ แล้วหลีกไป
อ้างอิง : มหาปรินิพพานสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ ข้อที่ ๘๒-๘๕ หน้า ๗๗-๗๘
ภาพประกอบ : http://commons.wikimedia.org/wiki/File:Budhha-Memorial-Park-Patna.jpg