ทักขิณาคิรีชนบท
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในพระนครราชคฤห์ตามพระพุทธาภิรมย์แล้ว เสด็จพระพุทธดำเนินไปทางทักขิณาคิรีชนบท พระองค์ทอดพระเนตรเห็นนาของชาวมคธ ซึ่งเขาพูนดินขึ้นเป็นคันนาสี่เหลี่ยม พูนคันนายาวทั้งด้านยาวและด้านกว้าง พูนคันนาคั่นในระหว่าง ๆ ด้วยคันนาสั้น ๆ พูนคันนาเชื่อมกันดังทาง ๔ แพร่ง ตามที่ซึ่งคันนากับคันนาผ่านตัดกันไป
ครั้นแล้ว รับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า
“อานนท์ เธอเห็นนาของชาวมคธซึ่งเขาพูนดินขึ้นเป็นคันนาสี่เหลี่ยม พูนคันนายาวทั้งด้านยาวและด้านกว้าง พูนคันนาคั่นในระหว่าง ๆ ด้วยคันนาสั้น ๆ พูนคันนาเชื่อมกันเป็นทาง ๔ แพร่ง ตามที่ซึ่งคันนากับคันนาผ่านตัดกันไปหรือไม่”
“เห็นตามพระพุทธดำรัส พระพุทธเจ้าข้า”
“เธอสามารถแต่งจีวรของภิกษุทั้งหลายให้มีรูปอย่างนั้นได้หรือไม่”
“สามารถ พระพุทธเจ้าข้า”
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ทักขิณาคิรีชนบท ตามพระพุทธาภิรมย์แล้ว เสด็จกลับมาพระนครราชคฤห์อีก ครั้งนั้น ท่านพระอานนท์แต่งจีวรสำหรับภิกษุหลายรูป ครั้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคได้กราบทูลว่า
“ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงทอดพระเนตรจีวร ที่ข้าพระพุทธเจ้าแต่งแล้ว พระพุทธเจ้าข้า”
ตรัสสรรเสริญท่านพระอานนท์
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานนท์เป็นคนฉลาด อานนท์ได้ซาบซึ้งถึงเนื้อความแห่งถ้อยคำที่เรากล่าวย่อได้โดยกว้างขวาง อานนท์ทำผ้ากุสิก็ได้ ทำผ้าชื่อ อัฑฒกุสิ ก็ได้ ทำผ้าชื่อ มณฑล ก็ได้ ทำผ้าชื่อ อัฑฒมณฑล ก็ได้ ทำผ้าชื่อ วิวัฏฏะ ก็ได้ ทำผ้าชื่อ อนุวิวัฏฏะ ก็ได้ ทำผ้าชื่อ คีเวยยกะ ก็ได้ ทำผ้าชื่อ ชังเฆยยกะ ก็ได้ และทำผ้าชื่อ พาหันตะ ก็ได้
จีวรจักเป็นผ้าที่ตัดแล้วเศร้าหมองด้วยศัสตราสมควรแก่สมณะ และพวกศัตรูไม่ต้องการ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตผ้าสังฆาฏิตัด ผ้าอุตราสงค์ตัด ผ้าอันตรวาสกตัด”
อ้างอิง : พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ ข้อที่ ๑๔๙ หน้า ๑๖๐