ป้ายแสดงสถานที่ตั้งบุปพาราม เมืองสาวัตถี
ในพุทธุปบาทกาลนี้ นางวิสาขาบังเกิดในครรภ์ของนางสุมนเทวี ภริยาหลวงของธนัญชัยเศรษฐี บุตรของเมณฑกเศรษฐีภัททิยนคร แคว้นอังคะ บิดามารดาได้ตั้งชื่อนางว่า วิสาขา
เวลานางมีอายุได้ ๗ ขวบ พระทศพลทรงเห็นอุปนิสัยสมบัติของเสลพราหมณ์และเหล่าสัตว์พวกจะตรัสรู้อื่น ๆ มีภิกษุสงฆ์เป็นบริวาร เสด็จจาริกไปถึงนครนั้น ในแคว้นอังคะนั้น
สมัยนั้น เมณฑกคฤหบดีเป็นหัวหน้าของเหล่าผู้มีบุญมาก ๕ คน ครองตำแหน่งเศรษฐี
เหล่าผู้มีบุญมาก ๕ คน คือ เมณฑกเศรษฐี ๑ ภริยาแสวงของเขาชื่อจันทปทุมา ๑ บุตรของเขาชื่อธนัญชัย ๑ ภริยาของธนัญชัยนั้นชื่อสุมนเทวี ๑ ทาสของเมณฑกเศรษฐี ชื่อปุณณะ ๑
มิใช่แต่เมณฑกเศรษฐีอย่างเดียวดอก ถึงในราชอาณาจักรของพระเจ้าพิมพิสาร ก็มีบุคคลผู้มีโภคสมบัตินับไม่ถ้วนถึง ๕ คน คือ โชติยะ ชฏิละ เมณฑกะ ปุณณะ และกากพลิยะ บรรดาคนทั้ง ๕ นั้น เมณฑกเศรษฐีทราบว่า พระทศพลเสด็จมาถึงนครของตน จึงเรียกเด็กหญิงวิสาขา ธิดาธนัญชัยเศรษฐีผู้เป็นบุตรมาแล้ว สั่งอย่างนี้ว่า
“แม่หนู เป็นมงคลทั้งเจ้า ทั้งปู่ เจ้าจงพาเกวียน ๕๐๐ เล่ม พร้อมด้วยเด็กหญิง ๕๐๐ คน บริวารของเจ้ามีทาสี ๕๐๐ นาง เป็นบริวาร จงทำการรับเสด็จพระทศพล”
นางฟังคำของปู่ ก็ปฏิบัติตาม แต่เพราะนางเป็นผู้ฉลาดในเหตุและมิใช่เหตุ นางก็ไปด้วยยานเท่าที่พื้นที่ยานจะไปได้แล้ว ก็ลงจากยานเดินไปเข้าเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมแล้ว ยืน ณ ที่ สมควรส่วนหนึ่ง
ครั้งนั้น พระศาสนาทรงแสดงธรรมโปรดด้วยอำนาจจริยาของนาง จบเทศนา นางก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล พร้อมกับเด็กหญิง ๕๐๐ คน
แม้เมณฑกเศรษฐีก็เข้าไปเฝ้าถวายบังคมพระศาสดาแล้ว นั่ง ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง พระศาสดาทรงแสดงธรรมโปรดด้วยอำนาจจริยาของเศรษฐีนั้น จบเทศนา เมณฑกเศรษฐีก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล อาราธนาพระศาสดาเพื่อเสวยในวันพรุ่ง
วันรุ่งขึ้น ก็เลี้ยงดูพระภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยอาหารอย่างประณีตในนิเวศน์ของตน ได้ถวายมหาทานโดยอุบายนั้น
พระศาสดาประทับอยู่ ณ ภัททิยนคร ตามพุทธอัธยาศัยครึ่งเดือน แล้วก็เสด็จหลีกไป